…. ข่าว "วงใน ลึก จริง" …

“อนุพงษ์” ลงพื้นที่เยี่ยมชมการผลิตเครื่องปั้นดินเผาของเชียงใหม่ศิลาดล สินค้ายกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชนสู่สากล

“อนุพงษ์” ลงพื้นที่เยี่ยมชมการผลิตเครื่องปั้นดินเผาของเชียงใหม่ศิลาดล สินค้ายกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชนสู่สากล เปิดงานสัมมนา สมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย เน้นย้ำความสำคัญของการกระจายอำนาจ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการดูแลบำบัดทุกข์ บำรุงสุขประชาชน

วันที่ 24 พฤศจิกายน 2565 พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะ ลงพื้นที่เยี่ยมชมการยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชนและพบปะศิลปินชุมชน ณ ร้านเชียงใหม่ศิลาดล ตำบลป่าป้อง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ , นายวรญาณ บุญณราช และ นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง พร้อมด้วย นางสาวทัศนีย์ ยะจา เจ้าของกิจการ และบุคลากรของเชียงใหม่ศิลาดล ร่วมให้การต้อนรับ

พลเอกอนุพงษ์ และคณะ ได้เยี่ยมชมขั้นตอนการผลิตเครื่องปั้นดินเผา และอาคารจัดแสดงจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ศิลาดล ประเภทองใช้ ของตกแต่งบ้าน และของที่ระลึก ที่มีจุดเด่น คือ เป็นสินค้ามีกระบวนการผลิตแบบดั้งเดิมที่เน้นการทำมือ ทำให้ผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นมีความเป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป นอกจากนี้ ยังได้เยี่ยมชมสินค้าเครือข่าย OTOP ของผู้ผลิตและผู้ประกอบการในพื้นที่ ที่ได้นำมาจัดแสดงและจำหน่ายในครั้งนี้ด้วย

สำหรับร้านเชียงใหม่ศิลาดล เป็นแหล่งผลิตและจำหน่ายสินค้าหัตถกรรมเครื่องปั้นดินเผาที่สานต่อภูมิปัญญาไทย เน้นการวาดลวดลายสีสัน ที่บ่งบอกถึงประเพณีและวัฒนธรรมไทย ผลิตจากวัตถุดิบในท้องถิ่นที่คัดสรรเป็นพิเศษ หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีที่อันตราย และเป็นสินค้าที่ได้การรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ GI ของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีความโด่งดังและเป็นที่รู้จักในระดับสากล

เปิดงานสัมมนาสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย

เวลา 09.00 น. ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จังหวัดเชียงใหม่ พลเอกอนุพงษ์ เป็นประธานเปิดการอบรมสัมมนา “การพัฒนาศักยภาพของท้องถิ่นสู่ความเป็นเมือง ตามหลักการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นไทย” จัดโดยสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย พร้อมกล่าวปาฐกถา “บทบาท อบต.กับการพัฒนาฐานรากประเทศไทย” โดยมี คณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง ร่วมเป็นเกียรติ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ พร้อมด้วย ดร.วิระศักดิ์ ฮาดดา นายก อบต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ในฐานะนายกสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แห่งประเทศไทย ให้การต้อนรับ พร้อมด้วยผู้บริหาร อบต. และสมาชิกสภา อบต.กว่า 6,000 คนจากองค์การบริหารส่วนตำบล 5,300 แห่งทั่วประเทศ เข้าร่วมการสัมมนา

พลเอกอนุพงษ์ กล่าวว่า การจัดสัมมนาในวันนี้ เป็นการรวมตัวของผู้บริหารและบุคลากรจากสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทยที่ใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่ง นับตั้งแต่ตนเข้ารับตำแหน่งมา การสัมมนาจะช่วยให้พวกเรามีแนวทางที่จะใช้ในการบริหารงานในพื้นที่ของตัวเอง ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นผลดีต่อผู้บริหารทุกท่านที่มาร่วมกิจกรรม ขอแสดงความชื่นชมในการจัดงานและความพร้อมเพรียงของพวกเรา ได้รับทราบว่ามีนายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จาก อบต. 5,300 แห่งทั่วประเทศ มาร่วมงาน ทั้งได้รับเกียรติจากผู้แทนของสมาคมท้องถิ่นแห่งอื่น ๆ พร้อมด้วยฝ่ายการเมือง เข้ามาร่วมงานในครั้งนี้ ผมขอฝากให้พวกเรารวมตัวกันเหนียวแน่นต่อไป ขอให้ดำรงจุดมุ่งหมายที่ท่านได้กล่าวไว้ นั่นคือ การทำงานด้วยความโปร่งใส่ เพื่อพี่น้องประชาชน เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ นี่คือหัวใจของการทำงานที่จะส่งผลดีต่อทุกท่านแน่นอน

พลเอกอนุพงษ์ กล่าวต่ออีกว่า ตนมีความปรารถนาที่จะให้การทำงานในทุกส่วน สามารถทำได้เต็มที่ ทำได้ดีที่สุด เช่น อบต. ผมตั้งใจอยากจะให้ท่านดูแลพี่น้องประชาชนให้ดีที่สุด นั่นคือ มีงบประมาณไปทำงานและดูแลคนทำงานให้ดีขึ้น โดยท้องถิ่นถือเป็นคำตอบสุดท้ายในการบริหารจัดการแผ่นดิน ดูแลพี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิดที่สุด

“ขอเรียนว่า การบริหารราชการในประเทศไทย เรามีส่วนกลาง เรามีการแบ่งอำนาจให้ผู้ว่าราชการจังหวัด เรามีการกระจายอำนาจที่ค่อย ๆ คืบหน้าไป อย่างไรก็ตามการบริหารราชการแผ่นดินต้องอาศัยองค์ประกอบทั้งสามเรื่อง ทั้งการรวมอำนาจ แบ่งอำนาจ กระจายอำนาจ ทุกอย่างจะมาก จะน้อยขึ้นอยู่กับบริบทของแต่ละสังคม ซึ่งท่านผู้บริหารทุกท่านมาจากการเลือกตั้ง การกระจายอำนาจเป็นคำตอบที่จะดูแลพี่น้องประชาชนได้ดี แต่ต้องมีสมดุล ผมมั่นใจหนึ่งอย่าง ถ้า อบต. หรือ อปท.ทุกรูปแบบ ตอบสนองต่อประชาชนได้ดี จะส่งผลให้การกระจายอำนาจเป็นไปในทิศทางที่ดี การกระจายอำนาจต้องก้าวไปเรื่อย ๆ และต้องมีงบประมาณที่จะช่วยจัดบริการสาธารณะ ดูแลพี่น้องประชาชนให้ได้” พลเอก อนุพงษ์ฯ กล่าว

ในช่วงท้าย พลเอกอนุพงษ์ ได้เน้นย้ำถึงหลักความโปร่งใสและการทำงานหนัก เพื่อให้พี่น้องประชาชนเกิดความไว้วางใจ อะไรไม่ดี ต้องถูกกำจัด เพราะฉะนั้น อปท. จะเป็นที่ไว้วางใจให้ประชาชนได้ ก็ต้องทำบทบาทและภารกิจของตัวเองให้ดี ทำให้ประชาชนในพื้นที่อยู่ดี กินดี มีความสุข พร้อมทั้งฝากให้ดูแลสุขภาพ เพื่อให้มีกำลังในการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” รับใช้ประชาชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน