ฮ่วย! มหานิยม ส.ส.สายพระ “ชี้” พรบ.ปฏิรูปตำรวจใหม่ “ก.พ.ค.ตร.” ต้องมาจากคนนอก

ฮ่วย! มหานิยม ส.ส.สายพระ “ชี้” พรบ.ปฏิรูปตำรวจใหม่ “ก.พ.ค.ตร.” ต้องมาจากคนนอก

11 ก.พ. 64 ดร.นิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร เขต 2 พรรคเพื่อไทย เผยถึง ร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติฉบับปรับปรุงแก้ไข ตามที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เสนอ โดยกล่าวว่าตนก็ได้อภิปรายญัตติร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. … ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา เมื่อวันอังคารที่ 9 ก.พ. 64 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ด้วยตนมีฉายาว่า “ส.ส.สายพระ” ตนจึงอยากจะนำเสนอแนวคิด คณะกรรมการรับเรื่องร้องเรียน – ร้องทุกข์ กำหนดให้ตั้ง คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมตำรวจ หรือ (ก.พ.ค.ตร.) โดยนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งนั้น ควรพิจารณาเสียใหม่ เพราะประเทศไทยที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยการกำกับของนายกรัฐมนตรี ถือเป็นการรวมศูนย์อำนาจอยู่ในมือนายกรัฐมนตรี แต่เพียงผู้เดียว

หากมาวิเคราะห์ด้วยใจที่เป็นกลาง ประเทศไทยเรามี “พวกมากลากไป” ทำให้เกิดระบบ Connection ระบบซื้อขายตำแหน่งที่ไปถามตำรวจท้องที่ไหนก็คงตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า “ซื้อ/ไม่ซื้อ” สิ่งนี้หาก ก.พ.ค.ตร. ก็แต่งตั้งโดยนายกรัฐมนตรีเพิ่มอีก ก็หมายความว่า ไม่มีอะไรที่ต่างจากเดิม ในความคิดเห็นของตน ควรให้ ก.พ.ค.ตร. มาจากบุคคลที่ ทุกฝ่ายให้การยอมรับว่า มาทำงานเพื่อประชาชน มาตรวจสอบการทำงานตำรวจ มาเพิ่มศีลธรรม มาเพิ่มคุณธรรม ให้กับตำรวจให้ทำงานอยู่กับอาชีพของตนอย่างซื่อสัตย์สุจริตอย่างแท้จริง ตนเห็นว่าผู้คัดเลือกและผู้ถูกคัดเลือก จะต้องไม่มี” ส่วนได้เสีย” กับการปฏิบัติหน้าที่ตำรวจ อย่างเช่นระบบ Common law ในอเมริกา เขาแต่งตั้งระบบลูกขุนเพื่อสร้างความมั่นใจได้ว่า มีความ “เที่ยงธรรม” ในการตัดสินอย่างแท้จริง สำหรับประเทศไทย ตนเห็นว่า กลุ่มพระสงฆ์ และผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับระบบตำรวจ ควรเข้าไปทำหน้าที่แทน ส่วนผู้ที่จะคัดเลือกควรมาจากหลายหน่วยงานและเป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเช่นกัน อีกทั้งควรมีวาระดำรงตำแหน่งไม่นานจนเกินไป เช่น 2-4 ปี ตามวาระ

กอร์ปกับการให้ค่าตอบแทนควรให้เงินเดือนที่มากกว่าเงินเดือนข้าราชการปกติ 2-4 เท่า เพื่อที่ว่าจะสามารถคัดเลือกคนที่เป็นระดับหัวกะทิมาทำงาน อีกทั้งความรู้ความสามารถแบบจัดเต็ม ทั้งนี้ควรมีการกำหนดโทษสำหรับ ก.พ.ค.ตร. หากกระทำการทุจริตหรือคอร์รัปชันที่มีโทษมากกว่าปกติ สิ่งนี้ตนมั่นใจได้ว่า ตำรวจที่เป็นต้นทางแห่งความยุติธรรม เป็นจุดชี้เป็นชี้ตายในขั้นพื้นฐานก่อนที่จะไปสู่อำนาจตุลาการขั้นถัดไป หากมีความซื่อสัตย์ ซื่อตรง รวดเร็ว รัดกุม ไม่บิดเบี้ยวแล้ว จะส่งผลให้ประเทศชาติเจริญรุดหน้าได้เช่นเดียวกับอนารยประเทศได้ ดร.นิยม กล่าว