เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน 2565 นายณพลเดช มณีลังกา คณะทำงานศูนย์ข้อมูลสารสนเทศเพื่อการสื่อสารการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ออกมาพาดพิงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไม่ต้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เช่าบ้านที่ดูไบ เพราะพล.อ.ประยุทธ์ ไม่จำเป็นต้องลี้ภัย เก็บไว้ให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ดีกว่า ว่า นายเสกสกล ออกมาอวยยศ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ดูตาม้าตาเรือ คนอื่นเขาเก็บของย้ายบ้านไปบ้านป่ารอยต่อกันหมดแล้ว แต่นายเสกสกลยังไร้ช่องทางติดต่อรักษาการนายกฯ หาทางเข้าไม่เจอ เลยละเมอเพ้อพก ทำตัวเป็นแผ่นเสียงตกร่อง หวังเศษเนื้อข้างเขียงลมๆแล้งๆ
นายเสกสกล ไปเอาความมั่นใจมาจากไหนว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่ต้องลี้ภัย การใช้ปลายกระบอกปืน รถถัง รถฮัมวี่ มาปฏิวัติรัฐประหารยึดอำนาจฉีกรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศถือเป็นกบฎ โทษหนัก ทุกประเทศต่อต้าน นายกฯทักษิณ นายกฯยิ่งลักษณ์ เข้าสู่อำนาจจากปลายปากกาในคูหาเลือกตั้งของประชาชน เมื่อชนะเลือกตั้งมาเป็นนายกรัฐมนตรีก็สร้างผลงานเป็นที่ประจักษ์ระดับตำนานมากมาย ไม่ว่าจะเป็น โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค กองทุนหมู่บ้าน ธนาคารประชาชน พักชำระหนี้เกษตรกร หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ หนึ่งอำเภอหนึ่งโรงเรียนในฝัน ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท นายเสกสกลไม่ต้องห่วงนางสาวแพทองธาร เพราะในอนาคตทหารจะไม่ทำรัฐประหาร ยัดข้อหากับผู้นำรัฐบาลง่ายๆ เพราะประชาชนตื่นรู้ ต่างประเทศไม่ยอมรับและกดดันอย่างหนัก แทนที่จะห่วงคนอื่น
นายเสกสกล ควรห่วงลูกชายและลูกสาวของตัวเองดีกว่า ที่เคยถูกพรรคเพื่อไทยอภิปรายไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ เรื่องนี้ยังมีบันทึกไว้ที่รัฐสภาและรอการรื้อฟื้น
“นายเสกสกลจะร้องเพลงอวยยศ พล.อ.ประยุทธ์ รัวๆอย่างไรก็เป็นสิทธิ แต่อย่าลืมเพลงกตัญญูทักษิณ ที่เคยร้อง คนประเภทไหน ไม่รับผิดชอบกับคำพูดและการกระทำของตัวเอง ขนาดย่าโม ยังถอนคำสาบานมาแล้ว จะถอนเรื่องอื่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเรียกไปตักเตือน เพราะพูดทีไร ทำนายเดือดร้อนทุกที” นายณพลเดช กล่าว