…. ข่าว "วงใน ลึก จริง" …

ครม. อนุมัติโครงการสินเชื่อแก้หนี้เพิ่มทุน ภายใต้งานมหกรรมร่วมใจแก้หนี้

วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรีเห็นชอบโครงการสินเชื่อแก้หนี้เพิ่มทุน พร้อมอนุมัติงบประมาณวงเงินรวม 600 ล้านบาท สำหรับการชดเชยความเสียหายที่เกิดจากหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ไม่เกินร้อยละ 30 ของวงเงินสินเชื่อทั้งหมด โดยธนาคารออมสินจะจัดสรรวงเงินการให้ความช่วยเหลือ วงเงินรวม 2,000 ล้านบาท ตั้งเป้าช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินในการดำรงชีวิตและลงทุนประกอบอาชีพของประชาชนกลุ่มเป้าหมายผู้เข้าร่วมงานมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ จำนวน 100,000 ราย

หลักเกณฑ์และเงื่อนไข โครงการสินเชื่อแก้หนี้เพิ่มทุน ธนาคารออมสินจะจัดสรรวงเงินการให้ความช่วยเหลือให้เหมาะสมกับระยะเวลางานมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ วงเงินรวม 2,000 ล้านบาท เป็นวงเงินสินเชื่อ/ราย ไม่เกินรายละ 20,000 บาท กลุ่มเป้าหมาย เป็นผู้มีรายได้ประจำ หรือผู้ประกอบอาชีพอิสระ เช่น ผู้ประกอบการรายย่อย พ่อค้า แม่ค้า หาบเร่แผงลอย เป็นต้น โดยเป็นผู้มีสัญชาติไทย อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปและเป็นผู้ที่เข้าร่วมงานมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ โดยต้องไม่เป็นลูกจ้าง พนักงาน ผู้บริหาร หรือกรรมการของธนาคารออมสิน สำหรับระยะเวลาการกู้ยืม ปลอดชำระหนี้เงินต้น 6 งวดแรก ระยะเวลาชำระคืนเงินงวดสูงสุดไม่เกิน 2 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ ร้อยละ 0.35 ต่อเดือน (Flat Rate) ไม่มีหลักประกัน (Clean Loan)โดยระยะเวลา ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบถึงวันที่ 31 มกราคม 2566 หรือจนกว่าจะครบวงเงินโครงการ

โฆษกรัฐบาลได้กล่าวเพิ่มเติมว่า งานมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ จะจัดขึ้นทั้งสิ้น 5 ครั้ง ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและสัญจรจังหวัดต่าง ๆ 4 ภาคทั่วประเทศ ดังนี้

•ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 4 – 6 พฤศจิกายน 2565 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี
•ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 18 – 20 พฤศจิกายน 2565 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น
•ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 16 – 18 ธันวาคม 2565 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
•ครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 20 – 22 มกราคม 2566 ณ จังหวัดชลบุรี และ
•ครั้งที่ 5 ระหว่างวันที่ 27 – 29 มกราคม 2566 ณ หอประชุมมหาวิทยาลัย สงขลานครินทร์ จังหวัดสงขลา

ซึ่งภายใต้โครงการฯ นี้ เป็นการให้สินเชื่อที่ผ่อนปรนกว่าสินเชื่อปกติของธนาคาร และเป็นไปตามเงื่อนไขที่ธนาคารออมสินกำหนด เพื่อช่วยเหลือผู้เข้าร่วมงานมหกรรมร่วมใจแก้ไขหนี้มีสภาพคล่องในการดำรงชีพ หรือประกอบอาชีพโดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบางที่ยังฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่ โดยผ่อนปรนภาระหนี้สินให้สอดคล้องกับรายได้ เพิ่มทุนใหม่เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนระยะสั้นและเป็นแหล่งเงินทุนเพื่อสร้างรายได้เพิ่มด้วย

“ประยุทธ์”โพสต์ย้ำรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน

ต่อมาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก ว่า ในขณะนี้ ประเทศไทยกำลังขับเคลื่อนก้าวไปข้างหน้าอย่างเต็มกำลัง หลังจากที่เราผ่านวิกฤตโควิดมาได้ เศรษฐกิจของประเทศกำลังฟื้นตัวหลังเปิดประเทศ รัฐบาลจึงได้มุ่งเป้าไปที่การแก้ปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการดำรงชีวิตของพี่น้องประชาชนคนไทยจำนวนมาก นั่นคือ “ปัญหาหนี้ภาคครัวเรือน”

รัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายสะสางคลายปมที่หมักหมมมาช้านานอย่างจริงจัง โดยประกาศให้ปี 2565 เป็นปีแห่งการแก้หนี้ภาคครัวเรือน และได้บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ผมจึงมีความยินดีที่ได้รับรายงานว่า กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย จะได้ร่วมกันจัดงาน “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้” ซึ่งจะมีการจัดงานทั้งหมด 5 ครั้ง ทั่วทุกภูมิภาค ดังนี้

ครั้งที่ 1 วันที่ 4 – 6 พ.ย. 65 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี กรุงเทพฯ

ครั้งที่ 2 วันที่ 18 – 20 พ.ย. 65 ที่ จ.ขอนแก่น

ครั้งที่ 3 วันที่ 16 – 18 ธ.ค. 65 ที่ จ.เชียงใหม่

ครั้งที่ 4 วันที่ 20 – 22 ม.ค. 66 ที่ จ.ชลบุรี

ครั้งที่ 5 วันที่ 27 – 24 ม.ค. 66 ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

นอกจากนี้ ในวันนี้ (1 พ.ย. 65 ) ครม. ยังมีมติเห็นชอบเสนอโครงการ “สินเชื่อแก้หนี้เพิ่มทุน” ที่เป็นหนึ่งในอีกหลายๆ โครงการที่มีวัตถุประสงค์ เพื่อช่วยเหลือให้ประชาชนผู้เข้าร่วมงาน “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้” ให้มีสภาพคล่องทางการเงินในการดำรงชีวิต และลงทุนประกอบอาชีพ สำหรับโครงการนี้มีเป้าหมายช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้ได้ไม่น้อยกว่า 100,000 ราย ผ่านมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ และมีหลักเกณฑ์ผ่อนปรนกว่าเกณฑ์ปกติ ของธนาคารออมสิน วงเงินโครงการรวมทั้งสิ้น 2,000 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายและรายละเอียดดังนี้

– ผู้ได้รับประโยชน์จากโครงการ คือ ประชาชนชาวไทย อายุ 21 ปีขึ้นไป ที่มีรายได้ประจำหรือผู้ประกอบอาชีพอิสระ (เช่น ผู้ประกอบการรายย่อย พ่อค้า แม่ค้า หาบเร่แผงลอย)

– อนุมัติวงเงินสินเชื่อสูงสุด 20,000 บาทต่อราย โดยไม่ต้องมีหลักประกัน

– ระยะเวลาการกู้ยืมได้สูงสุด 2 ปี โดยปลอดชำระหนี้เงินต้น 6 งวดแรก

– อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 0.35 ต่อเดือน

ผมจึงขอเชิญชวนพี่น้องที่มีความสนใจ เข้าร่วมงาน “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้” ที่จะจัดขึ้นทั้ง 5 ครั้ง ซึ่งผมเชื่อว่าจะสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยแก้ไขปัญหาของหลายๆคน ในการเพิ่มคุณภาพชีวิต เพิ่มความสุขให้กับคนในครอบครัว ที่ไม่ต้องพึ่งหนทางที่อาจจะก่อให้เกิดปัญหาซ้ำเติม เช่นหนี้นอกระบบ หรือการหารายได้อย่างผิดกฎหมาย และเป็นการช่วยแก้ปัญหาสำคัญของประเทศชาติ ในการพัฒนาคุณภาพของคนในประเทศ เพื่อพัฒนาประเทศของเราให้เดินหน้าอย่างมั่นคงได้ต่อไป