…. ข่าว "วงใน ลึก จริง" …

“สรัสนันท์”เพื่อไทย ชี้ไทยจัดประชุมเอเปคไม่คุ้มทุน 3,280 ล้าน ชู BCGโมเดลทับซ้อน COP27 ดัน FTAAP แค่ฝัน

“สรัสนันท์”เพื่อไทยชี้ไทยจัดประชุมเอเปคสวยแต่รูปจูบไม่หอม ไม่คุ้มกับที่ลงทุน 3,280 ล้าน ไทยได้ประโยชน์น้อยมาก ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ชูศรษฐกิจ BCGโมเดลทับซ้อนกับพันธกิจ COP27 ดันเขตเศรษฐกิจ FTAAP ก็ได้แค่ฝัน

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 น.ส. สรัสนันท์ อรรณนพพร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ขอนแก่น และ คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าการประชุมเอเปคโดยประเทศไทยครั้งนี้เป็นที่น่าผิดหวังอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับครั้งก่อนที่ประเทศไทยเคยเป็นเจ้าภาพ การจัดประชุมครั้งนี้พลเอกประยุทธทุ่มงบประมาณไปกว่า 3,280 ล้านบาท แต่ไม่ได้อะไรกลับมาอย่างเป็นรูปธรรมแม้แต่อย่างเดียว ไม่ว่าจะเป็นบทสรุปของสาระการประชุม หรือ การประชาสัมพันธ์โปรโมทประเทศอย่างคุ้มค่า โอกาสการสื่อสารความประเทศไทยที่น่าสนใจ ที่จะต่อยอดการท่องเที่ยวได้ทำได้ไม่ดี เป็นการประชุมที่แพงแต่ไม่ได้เป็นรูปธรรม อีกทั้งยังมีภาพความรุนแรงต่อกลุ่มผู้ชุมชุมโดยเจ้าหน้าที่ใช้อาวุธเกินกว่าเหตุ มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสมากมาย

บทสรุปของการประชุมเอเปค2022ครั้งนี้ ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ประเทศไทยได้ชูประเด็นโมเดลเศรษฐกิจ BCG (Bio- Circular Green economy) – เป็น “Bangkok Goals” หรือ “เป้าหมายกรุงเทพ” ซึ่งสาระล้วนทับซ้อนกับพันธกิจของ COP27 สาระไม่ต่างอะไรจากการประชุมอนุสัญญาประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงโลกร้อนมากนัก ที่สำคัญประเทศไทยที่ชูเรื่องนี้มาเป็นเป้าหมายสำคัญ กลับยังไม่มีแผนใดๆตอบรับกับ โมเดล BCG เลย เมื่อดูวิธีการการจัดทำงบประมาณของปี 66 หน่วยงานรับงบประมาณ ข้าราชการต่างๆยังไม่รับรู้ด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร ซึ่งแผนงานการจัดงบก็เป็นไปในรูปแบบเดิมๆ

ประเทศไทยโดย พลเอกประยุทธ์ ในฐานะเจ้าภาพมีความพยายามที่จะหยิบแนวคิดเดิมๆ คือ การจัดตั้งเขตเศรษฐกิจเอเปค หรือ การตกลงการค้าเสรีในเขตเศรษฐกิจเอเปค หรือ FTAAP ซึ่งตามหลักความเป็นจริง แทบจะเป็นไปไม่ได้ เพราะแต่ละเขตเศรษฐกิจมีการตกลงทวีภาคีอยู่แล้ว ไม่ก็พหุภาคีระดับภูมิภาคนั้น ฉะนั้นความตั้งใจจะลุล่วงข้อตกลงนี้ถือว่าไม่น่าสนใจ ดูดีเฉยๆแต่หากว่าเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ

ฉะนั้นสาระสำคัญของการประชุมเอเปค2022นี้ ถือว่าไม่มีอะไรน่าสนใจ “สวยแต่รูป จูบไม่หอม” สื่อต่างชาติพูดถึงเอเปค2022น้อยมาก เมื่อเทียบกับประชุม G20 ที่ประเทศอินนีเซีย หรือ การประชุม ASEAN ที่กัมพูชา ที่อยู่ในภูมิภาคเดียวกัน เขตเศรษฐกิจเอเปคถือว่ามีความสำคัญกับประเทศไทยมาก เพราะการค้าของไทยกว่า 70% ของประเทศไทยอยู่ในเขตเศรษฐกิจนี้ เราหวังว่าการประชุมครั้งนี้จะเป็นโอกาสที่ไทยจะได้กลับอะไรมาเพิ่มเติม สามารถยกเรื่องต่างๆมาเจรจาได้ แต่เราเสียโอกาสครั้งนี้ไปอย่างน่าเสียดาย เพราะไม่เห็นผลรับอย่างเป็นรูปธรรมใดๆ นอกจากเป็นเจ้าภาพนั่งร้านจัดงานประชุมเพียงเท่านั้น

นอกจากนี้ พลเอกประยุทธ์ ไม่ได้หยิบฉวยโอกาสครั้งนี้ต่อยอดให้การท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ ประเทศไทยที่เป็นเจ้าภาพไม่สามารถเพิ่มมูลค่าการโปรโมทประเทศสู่สาธารณชนชาวโลกได้ การท่องเที่ยวไม่ได้รับอานิสงค์จากการประชุมครั้งนี้อย่างเต็มที่ รัฐบาลไม่ได้ให้ความสำคัญกับรายละเอียดปลีกย่อยที่มีมูลค่ามหาสาร ถ้าเปรียบเทียบกับการที่ประเทศเราเป็นเจ้าภาพภายใต้รัฐบาล ท่านนายกทักษิณ ชินวัตร ที่หยิบยกเอกลักษณ์วัฒนธรรมไทยถ่ายทอดผ่านการประชุมสุดยอดผู้นำ ไม่ว่าจะเป็นนำผ้าไหมไทยมาตัดเย็บให้ผู้นำได้สวมใส่และร่วมถ่ายภาพหมู่ หรือการจัดขบวนพระยุหยาตราทางชลมารค ที่หาดูไม่ได้จากที่ไหน ถ่ายทอดมรดกทางวัฒนธรรมไทยไปทั่วโลก หรือการพาคณะผู้นำประเทศไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ ภาพเหล่านี้ ประเมินมูลค่าเพิ่มที่สร้างให้ประเทศไม่ได้เลย แต่สิ่งเล่านี้เราหาไม่ได้จากการเป็นเจ้าภาพในปีนี้เลย

นอกจากภาพการประชุม หรือการให้การรับรองผู้นำต่างๆนี้แล้ว สิ่งที่ได้ถูกเผยแพร่ออกไปและเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจจากสื่อต่างชาติเป็นอย่างมากคือ ภาพความรุนแรงที่เกิดขึ้นจาก คฝ.ปะทะกับกลุ่มผู้ชุมชุมที่เกินกว่าเหตุ ถึงขั้นใช้กระสุนยางทำร้ายประชาชนได้รับบาดเจ็บอย่างหนักหลายราย รวมไปถึงผู้สื่อข่าว ภาพเหตุการณ์เหล่านี้สะท้อนถึงรัฐบาลที่ไม่เห็นหัวของประชาชน ดีแต่สร้างภาพกับต่างชาติ ในขณะเดียวกันปฎิบัติกับประชาชนประเทศตัวเองเยี่ยงมนุษย์ที่ไร้ค่าไร้ศักดิ์ศรี รัฐบาลภายใต้พลเอกประยุทธ์ไม่เคยให้เกียรติ หรือ สิทธิเสรีภาพกับประชาชน ใช้ความรุนแรงกับประชาชนในทุกๆกรณีทั้งที่เป็นสิทธิของประชาชน