…. ข่าว "วงใน ลึก จริง" …

“สมศักดิ์” ไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือนชลบุรี มอบเงินช่วยเหลือเหยื่อ Mountain B

หวังทุกกระทรวงร่วมมือบูรณาการ ทำงานช่วยเหลือประชาชน มอบเงินเยียวยา 19 เหยื่อไฟไหม้ Mountain B รวม 2.1 ล้านบาท ชี้ต้องรอนำเรื่องเข้า คกก.พิจารณาเป็นคดีพิเศษ สั่งดีเอสไอภาค 2 ทำงานร่วมตำรวจ ยันพร้อมช่วยประชาชนทุกคน

เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2565 เวลา 10.00 น . ที่ศาลาประชาคม เทศบาลบ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานมอบจ่ายเงินสินบนค่าตอบแทนผู้แจ้งความนำจับ และมอบเงินเยียวยาผู้เสียหายจากคดีอาญา ตามพ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา คดีไฟไหม้ผับ Mountain B 19 ราย เป็นเงิน 2,176,899 บาท โดยมีนายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม

นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ นางทัศนีย์ เปาอินทร์ อธิบดีกรมบังคับคดี พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน พันตำรวจโท พงษ์ธร ธัญญสิริ ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม พันตำรวจเอก ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ นายวิทยา คุณปลื้ม นายก อบจ.ชลบุรี ร.อ.จองชัย วงศ์ทรายทอง ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ เจ้าหน้าที่และประชาชนร่วมงาน

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การมอบเงินช่วยเหลือเหยื่อ Mountain B ในส่วนของผู้เสียชีวิต 15 รายแรก จะได้รับ 110,000 บาท ส่วนอีก 4 รายจะได้รับในส่วนค่ารักษาตามจริงเพิ่มไปด้วย ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ จะได้รับค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 40,000 บาท ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายและจิตใจตามจริงไม่เกิน 20,000 บาท ค่าขาดประโยชน์ในระหว่างที่ไม่สามารถทำงานได้ ตามอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของชลบุรี วันละ 336 บาท ไม่เกิน 1 ปี และค่าตอบแทนความเสียหายอื่น ไม่เกิน 50,000 บาท ซึ่งในส่วนผู้บาดเจ็บนั้น เมื่อรักษาเสร็จสิ้นเราจะเร่งพิจารณาและมอบช่วยเหลือทันที

ต่อมา นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้นำญาติผู้เสียหาย เข้าเรียกร้องเพื่อให้คดีไฟไหม้ผับ Mountain B เป็นคดีพิเศษและโอนคดีให้ส่วนกลางทำ เพราะผับเปิดแบบผิดกฎหมาย หวั่นว่าจะมีเจ้าหน้าที่รู้เห็น อาจทำให้การทำคดีไม่เป็นกลาง

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ขอยืนยันว่ากระทรวงยุติธรรม พร้อมให้การช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนทุกคน เบื้องต้น ตนได้สั่งดีเอสไอภาค 2 ทำงานสืบหาข้อมูลร่วมกับตำรวจ ส่วนการทำเป็นคดีพิเศษ ต้องนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ ที่มี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เป็นประธาน พิจารณา ตนยืนยันเรื่องนี้ กระทรวงยุติธรรมให้ความสำคัญ โดยการทำงานร่วมกันระหว่าง ดีเอสไอ และกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และได้นำเงินเยียวยามามอบให้ญาติผู้เสียชีวิตในวันนี้

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2565 ที่กระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์ เปิดการประชุมคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ครั้งที่ 8/2565 โดยมี น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วย รมว.ยุติธรรม และผู้ช่วยรัฐมนตรีทุกกระทรวง นายประวุธ วงศ์สีนิล รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 10-01 อาคารกระทรวงยุติธรรม และผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์

โดย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีนั้น การทำงานก็เหมือนกับรัฐมนตรี และถือเป็นบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี และรัฐมนตรีแต่ละกระทรวง เนื่องจากผู้ช่วยรัฐมนตรีเป็นผู้ประสานงานในเรื่องสำคัญต่างๆ และยังเป็นผู้แทนของรัฐมนตรีในการรับฟังข้อเสนอแนะ รับข้อร้องเรียนหรือร้องทุกข์เกี่ยวกับนโยบาย ซึ่งต้องใช้ความมุ่งมั่นและทุ่มเทในการทำงานอย่างมาก ตนอยากบอกเล่างานของกระทรวงยุติธรรม ที่เป็นเครื่องมือหนึ่งในการช่วยเหลือประชาชนได้ โดยที่ผ่านมาเราได้จัดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน ซึ่งจัดไปแล้ว 74 ครั้ง ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 59,259 ราย ลดค่าใช้จ่ายประชาชนได้ 5,393 ล้านบาท และยังมีการมอบเงินเยียวยาผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญาไปแล้ว 110,579 คน เป็นเงิน 6,236 ล้านบาท รวมถึงกองทุนยุติธรรมให้ความช่วยเหลือประชาชนไปแล้ว 3,330 ราย รวมเป็นเงิน 264 ล้านบาท

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า เรายังได้จัดทำ พ.ร.บ.มาตรการป้องกันการกระทำผิดซ้ำในคดีความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง (JSOC) เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับสังคม โดยเฉพาะผู้หญิง ซึ่งได้รับคำชมจากคณะกรรมการกฤษฎีกาว่าเป็นกฎหมายที่ทันสมัย การจัดทำประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ ที่เน้นการยึดทรัพย์ตัดวงจรเครือข่ายผู้ค้ายา ยึดทรัพย์ตามมูลค่ายาเสพติด หรือ “แวลู เบท” ย้อนหลังได้ถึง 10 ปี โดยกำหนดเป้ายึดทรัพย์ในปีนี้ 10,000 ล้านบาท โดยให้รางวัลเจ้าหน้าที่ 25% และผู้แจ้งเบาะแส 5% การปลดล็อกพืชกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติด เป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ และสุดท้ายคือการขับเคลื่อนนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์ สร้างงานสร้างอาชีพให้ผู้ต้องขังเพื่อลดการกระทำผิดซ้ำ ซึ่งจะเป็นการลดความแออัดในเรือนจำได้อีกด้วย

“ผมขอฝากผู้ช่วยฯทุกท่านช่วยประชาสัมพันธ์เครื่องมือต่างๆเหล่านี้ ของกระทรวงยุติธรรมในการช่วยเหลือชาวบ้าน และหวังว่าทุกกระทรวงจะร่วมมือบูรณาการ การทำงานในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยเหลือประชาชนให้มากที่สุด กระทรวงยุติธรรมก็พร้อมที่จะร่วมมือและให้การสนับสนุนทุกกระทรวงเต็มที่อย่างแน่นอน เพราะเรื่องนี้สังคมได้ประโยชน์อย่างมาก” นายสมศักดิ์ กล่าว