พ่อเมืองสุราษฎร์เผยพัฒนาโคก หนอง นา ต้นแบบ ปรับดินน้ำกร่อยปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ ทำนา สร้างสังคมแห่งการเกื้อกูล พึ่งตนเอง โดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม พร้อมรับมือวิกฤติและภัยพิบัติในอนาคตได้
เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2565 นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้นายพิชัย มณีลาภ ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน จัดกิจกรรมเอามื้อสามัคคี พัฒนา โคก หนอง นา ที่แปลงของนางสาวภมรศรี แขวงถลาง บ้านหน้าวัดอัมพาราม หมู่ที่ 3 ตำบลคลองไทร อำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้เป็นแหล่งเรียนรู้สร้างความมั่นคงทางอาหาร โดยมีนายสุกิจ มีพริ้ง นายอำเภอท่าฉาง นางสารภี จีนไทย พัฒนาการอำเภอท่าฉาง หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ ประธานเครือข่ายโคก หนอง นา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ประธานเครือข่าย โคก หนอง นา อำเภอท่าฉาง อำเภอไชยา อำเภอเวียงสระ อำเภอคีรีรัฐนิคม นักวิชาการพัฒนาชุมชน และประชาชน เข้าร่วมกิจกรรม
ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในวันนี้เป็นการสานสัมพันธ์เอามื้อสามัคคีของเครือข่าย โคก หนอง นา อำเภอท่าฉาง โดยมีกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 5 กิจกรรม ได้แก่ 1. การทำแซนวิชเลี้ยงปลา 2. การเรียนรู้และขุดคลองไส้ไก่ 3. การทำปุ๋ยแห้ง 4. การหมักเตรียมดินเพื่อปลูกผัก และ 5. การถอดบทเรียนประยุกต์ใช้ โดยกำหนดเป้าหมาย 4 พอ (พอกิน พออยู่ พอใช้ พอร่มเย็น) ตามหลักทฤษฎีบันได 9 ขั้น สู่ความพอเพียง เพื่อให้เกิดการพัฒนาคนบนวิถีความพอเพียง เสริมสร้างความมั่นคงให้กับครัวเรือน สู่การพัฒนาพื้นที่โดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ มีความมั่นคงทางอาหาร และน้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภคได้ตลอดทั้งปี นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้เกิดการรวมกลุ่มกันระหว่างชุมชนและขยายผลด้วยการพัฒนาเครือข่ายไปยังระดับอำเภอ และในระดับมหภาคต่อ ๆ ไป สู่สังคมแห่งการเกื้อกูล ชุมชนมีความพร้อมและมีภูมิคุ้มกันต่อวิกฤติ หรือ ภัยพิบัติธรรมชาติอื่น ๆ ได้ในอนาคต
นายวิชวุทย์ กล่าวเพิ่มว่า แปลงโคก หนอง นา ของนางสาวภมรศรี แขวงถลาง เป็นแปลงโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา” ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ขนาดพื้นที่ 3 ไร่ สภาพเดิมเป็นพื้นที่ลุ่ม และมีน้ำท่วมขัง ไม่สามารถใช้ประโยชน์ทางการเกษตรได้ อีกทั้งเป็นพื้นที่น้ำกร่อย จึงได้มีการขุดปรับพื้นที่ พร้อมปรับปรุงสภาพดินทำให้สามารถใช้ประโยชน์ได้ทั้งปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ และเลี้ยงปลา ในปัจจุบันที่แปลงดังกล่าวสามารถทำนา พร้อมทั้งปลูกไม้ 5 ระดับ พืชผักสวนครัว พืชสมุนไพร มากกว่า 10 ชนิดได้อีกด้วย โดยคุณภมรศรีฯ เจ้าของแปลง เล่าว่า ตนมีความรู้สึกดีใจ และภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก ที่ได้เข้าร่วมโครงการกับกรมการพัฒนาชุมชน โดยมีความมุ่งหวังว่าจะพัฒนาแปลงโคก หนอง นา ให้เป็นฟาร์ม สเตย์ เป็นที่ศึกษาดูงานของประชาชนในพื้นที่ต่อไป สะท้อนให้เห็นว่าโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา” สามารถทำให้เกิดผลงานที่เป็นรูปธรรม ซึ่งจังหวัดสุราษฎรธานีจะผลักดันกิจกรรมเอามื้อสามัคคี พัฒนา โคก หนอง นา สู่การขยายผลในพื้นที่ภายในจังหวัดและจังหวัดข้างเคียงต่อไป เพื่อเป็นการ Change for Good สร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ให้กับสังคมไทยอย่างยั่งยืน