…. ข่าว "วงใน ลึก จริง" …

‘ชญาภา’ ยกรายงานฟรีดอมเฮาส์ ชี้สิทธิเสรีภาพแสดงออกการเมืองไทยตกต่ำ

‘ชญาภา’ ชี้สิทธิเสรีภาพแสดงออกการเมืองไทยตกต่ำนับทศวรรษจนต่างชาติจัดอันดับไร้เสรีภาพติดต่อกัน 2 ปีซ้อน จี้รัฐเร่งทบทวนบทบาท

นางสาวชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีองค์กรระหว่างประเทศด้านสิทธิเสรีภาพพลเมืองหรือฟรีดอมเฮาส์ (Freedom House) เผยแพร่รายงานเสรีภาพโลกประจำปี 2022 (Freedom of the World 2022) ที่ประเมินสิทธิทางการเมืองและเสรีภาพของประชาชนในแต่ละประเทศทั่วโลก พบว่า ประเทศไทยถูกจัดให้อยู่ในประเทศ ‘ไร้เสรีภาพ’ เป็นอันดับที่ 7 ของโลก ซึ่งถูกลดขั้นตกชั้นติดต่อกัน 2 ปีซ้อน ถูกรวมอยู่ในกลุ่มประเทศที่ประสบกับวิกฤตการถดถอยของเสรีภาพหนักที่สุด แย่กว่าเยเมน ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 21 และอัฟกานิสถาน อันดับที่ 22 ทั้งยังเป็น 1 ใน 10 ประเทศที่ ‘ต้องจับตาเป็นพิเศษ’ จากการดำเนินการทางกฎหมายต่อผู้ชุมนุมที่เรียกร้องประชาธิปไตย

ขณะที่อันดับการประเมิน ‘ด้านสิทธิทางการเมือง’ และ ‘เสรีภาพพลเมือง’ ไทยได้ 29 คะแนนจากเต็ม 100 คะแนนนั้น ทั้งหมดสะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยภายใต้การนำของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กว่าเกือบทศวรรษสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมืองของประชาชนคนไทยตกต่ำอย่างหนัก ไทยต้องประสบกับสภาวะถดถอยทางเสรีภาพขั้นวิกฤต โดยเฉพาะด้านสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย ที่นับวันพัฒนาการทางประชาธิปไตยยิ่งเสื่อมถอยลงทุกวัน ถูกลดชั้นจากองค์กรระหว่างประเทศทุกปี ไม่มีความสง่างามในเวทีโลก เพราะความพยายามปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงออกรวมทั้งการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลถูกจำกัด การชุมนุมของนักเรียน นิสิตนักศึกษาและประชาชนหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา กลายเป็นเงื่อนไขให้รัฐบาลดำเนินคดีและจับกุมคุมขังคนเห็นต่างในที่สุด

นางสาวชญาภา กล่าวอีกว่า สิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกเป็นพื้นฐานสำคัญของสังคมประชาธิปไตยที่สามารถทำได้ แต่ประชาชนกลับถูกปิดกั้นเสรีภาพในการพูดอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การแสดงความคิดเห็นทางการเมืองของนักกิจกรรมหลายคน ตลอดจนประเด็นที่เกิดขึ้นล่าสุดกรณีจากการแสดงเดี่ยวไมโครโฟน 13 ของนายอุดม แต้พานิช หรือโน้ส ที่มีการแสดงความคิดเห็นในเชิงวิพากษ์วิจารณ์การบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ก็ถูกคนในรัฐบาลมองว่าเป็นการกระทำที่เกินขอบเขตและใช้กฎหมายดำเนินการ ทั้งที่นายกรัฐมนตรีและองคาพยพคือบุคคลสาธารณะ รับเงินเดือนจากภาษีประชาชน ประชาชนย่อมมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ตรวจสอบวิจารณ์การทำงานของรัฐบาลได้ตามรัฐธรรมนูญ รัฐบาลไม่ควรใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือดำเนินคดีกับคนเห็นต่าง เพราะยิ่งจะเป็นการขยายให้เกิดความขัดแย้งในสังคมให้มากขึ้น ดังนั้นรัฐบาลควรเร่งทบทวนบทบาทของตัวเองว่าได้ทำประเทศล้าหลัง ประชาธิปไตยถดถอยจริงหรือไม่ จนองค์กรต่างประเทศได้เรียกร้องรัฐบาลไทยให้ยกเลิกข้อกล่าวหาผู้ชุมนุมอันเป็นการปิดกั้นสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของคนในประเทศ

‘รัฐบาลอย่าลืมว่าที่ใดมีการกดขี่ ที่นั่นย่อมมีการลุกฮือต่อต้าน จากประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยที่แท้จริง รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ควรมีความละอายที่ยิ่งดันทุรังอยู่ในอำนาจนานยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศยิ่งเสียหาย’ นางสาวชญาภา กล่าว