15 พฤศจิกายน 2564 ที่จังหวัดสกลนคร คณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎรได้เข้ากราบพระราชวชิรธรรมาจารย์ เจ้าอาวาสวัดเกษรศีลคุณ (วัดป่าบ้านตาด) จ.อุดรธานี ซึ่งประกอบด้วยนายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล รองประธานกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎรนายทองแดง เบ็ญจะปัก กรรมาธิการ นายสัมพันธ์ เสริมชีพ อนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาด้านพระพุทธศาสนาฯ นายณพลเดช มณีลังกา อนุกรรมาธิการฯ นายประกรเกียรติ ญาณหาร เลขานุการคณะกรรมาธิการฯ , นายธัชกร แต้ศิริเวช ที่ปรึกษากรรมาธิการศาสนาฯ , นางสาวสิริมน โฉมจันทร์ เลขานุการคณะกรรมาธิการฯและคณะ เพื่อรับมอบประธานกฐินพร้อมด้วยปัจจัยไทยธรรม เพื่อนำไปถวายให้กับวัดที่มีพระสงฆ์จำพรรษาครบไตรมาส จำนวน 5 รูปขึ้นไป

เพื่อให้พระสงฆ์ที่ประจำพรรษาในแต่ละวัดที่ขาดกฐินได้กรานกฐิน ซึ่งถือเป็นอานิสงส์สำหรับพระสงฆ์ และเป็นอานิสงส์ใหญ่สำหรับสาธุชนที่ได้ร่วมถวายผ้ากฐินทาน ซึ่งความเป็นมาของกฐินคือ มีภิกษุชาวเมืองปาไฐยรัฐจำนวน 30 รูป ได้เดินทางเพื่อมาเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า ณ วัดเชตวันมหาวิหารเมืองสาวัตถี ขณะนั้นยังไม่ทันที่ถึงเมืองสาวัตถี ก็ถึงวันเข้าพรรษาเสียก่อน พระสงฆ์ทั้ง 30 รูป จึงต้องจำพรรษาณ เมืองสาเกตุในระหว่างทาง เมื่อออกพรรษาแล้ว ภิกษุเหล่านั้นจึงได้ออกเดินทางมาเข้าเฝ้าพระศาสดาด้วยความยากลำบากเพราะฝนยังตกชุกอยู่ เมื่อเดินทางถึงวัดพระเชตวัน พระพุทธเจ้าได้ตรัสถามถึงความเป็นอยู่และการเดินทาง เมื่อทราบความลำบากนั้นจึงทรงอนุญาตให้ภิกษุผู้จำพรรษาครบถ้วนไตรมาสสามารถรับผ้ากฐินได้ และภิกษุผู้ได้กรานกฐินได้อานิสงส์ 5 ประการ ภายในเวลาอานิสงส์กฐิน (นับจากวันที่รับกฐินจนถึงวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 4) หรือ 1 เดือนหลังออกพรรษา ในการนี้นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล ได้ประสานกับสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสกลนคร เพื่อรับมอบและนำไปถวายให้แก่วัดที่ยังไม่ได้รับกฐิน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 19 พ.ย. 2564 ที่จะถึงนี้
